แมลงศัตรูผัก

สถาบันวิจัยพืชสวน - กรมวิชาการเกษตร

คำที่ค้นหา : (13)

ชื่อแมลง : ไรขาวพริก

  • ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tarsonemidae | |
  • ความสำคัญและลักษณะการทำลาย : ศัตรูสำคัญของพริก ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบอ่อนและยอดอ่อนที่แตกใหม่ ทำให้ใบม้วนงอ ผิวใบหนา แข็งเปราะ หลังใบมีสีน้ำตาลหรือเขียวเข้ม ถ้าทำลายยอด ทำให้ยอดอ่อนแตกเป็นฝอย การเจริญชะงัก ถ้าทำลายดอก กลีบดอกบิด ดอกแคระแกรน ถ้าทำลายผลทำให้ผลเป็นขี้กลากการระบาดที่รุนแรงทำให้ต้นพืชตายได้
  • วงจรชีวิต : อายุ 4-6 วัน
  • พืชอาหาร : ส้มโอ ส้มเขียวหวาน ชา พริก ฝ้าย บวบ ถั่วฝักยาว ถั่วเขียว พืชตระกูลแตง โหระพา มันฝรั่ง มะม่วง และไม้ดอก เช่น เบญจมาศ เยอบีร่า

ชื่อแมลง : ด้วงหมัดผักแถบลาย

  • ชื่อวิทยาศาสตร์ : | Leaf Eating Beetle, Flea Beetle |
  • ความสำคัญและลักษณะการทำลาย : แพร่ระบาดอยู่โดยทั่วๆ ไปในธรรมชาติ พบ 2 ชนิด คือ ด้วงหมัดผักแถบลาย P. sinuata และด้วงหมัดผักสีน้ำเงิน P. chontanica ชนิดที่ส่าคัญคือ ด้วงหมัดผักแถบลาย ตัวจะอ่อนกัดกินหรือชอนไชเข้าไปกินอยู่บริเวณโคนต้นหรือรากของผัก ท่าให้พืชผักเหี่ยวเฉาและไม่เจริญเติบโต ถ้ารากถูกท่าลายมากๆ ก็อาจจะท่าให้พืชผักตายได้ ตัวเต็มวัยชอบกัดผิวด้านล่างของใบท่าให้ใบเป็นรูพรุน และอาจกัดกินผิวล่าต้น และกลีบดอกด้วย ด้วงหมัดผักชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ ตัวเต็มวัยเมื่อถูกกระทบกระเทือนชอบกระโดด และสามารถบินได้ไกลๆ
  • วงจรชีวิต : อายุ 47-83 วัน
  • พืชอาหาร : ผักตระกูลกะหล่่า เช่น ผักคะน้า กะหล่่าปลี กะหล่่าดอก กะหล่่าปม ผักกาดเขียวกวางตุ้ง ผักกาดเขียวปลี ผักกาดหัว เป็นต้น

ชื่อแมลง : แมลงวันหนอนชอนใบ

  • ชื่อวิทยาศาสตร์ : | cabbage leafminer) |
  • ความสำคัญและลักษณะการทำลาย : แมลงวันหนอนชอนใบวางไข่ที่มีขนาดเล็กภายในผิวพืช เมื่อไข่ฟักเป็นตัวหนอน ตัวหนอนจะชอนไช กัดกินอยู่ใต้ผิวใบพืช ท่าให้เกิดรอยเส้นสีขาวคดเคี้ยวไปมา เมื่อน่าใบพืชมาส่องดูจะพบหนอนตัวเล็กๆ สีเหลืองอ่อนโปร่งแสง อยู่ภายในเนื้อเยื่อใบพืช หากระบาดรุนแรงจะท่าให้ใบเสียหายร่วงหล่นซึ่งจะมีผลต่อผลผลิตหากพืชนั้นๆ ไม่สามารถสร้างใบทดแทนได้พืชก็จะตายไปในที่สุด
  • วงจรชีวิต : อายุขัย 21 วัน
  • พืชอาหาร : พืชตระกูลกะหล่่า เช่น กะหล่่าปลี กะหล่่าดอก บร็อคโคลี่ คะน้า กวางตุ้ง

ชื่อแมลง : เพลี้ยอ่อน

  • ชื่อวิทยาศาสตร์ : | turnip aphid |
  • ความสำคัญและลักษณะการทำลาย : เพลี้ยอ่อนเข้าท่าลายพืชอาหารโดยใช้ปากที่พัฒนาเป็นท่อยาว ภายในเป็นท่อเล็กๆ ลักษณะคล้าย เส้นด้าย 2 ท่อ ท่อขนาดใหญ่เป็นท่อที่ใช้ดูดน้่าเลี้ยงจากพืช อีกท่อที่มีขนาดเล็กกว่าเป็นท่อที่เพลี้ยอ่อนปล่อย น้่าลายเข้าไปในเนื้อเยื่อพืช เพลี้ยอ่อนทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้่าเลี้ยงจากส่วนอ่อนๆ ของพืช โดยใช้ ส่วนปากแทงเข้าในเนื้อเยื่อระหว่างเซลล์พืช ดูดน้่าเลี้ยงจากพืช เมื่อเข้าท่าลายใบท่าให้ใบหงิกงอและร่วงหล่น ต้นแคระแกรน นอกจากดูดกินน้่าเลี้ยงจากพืชแล้วเพลี้ยอ่อนยังขับถ่ายของเสียที่มีส่วนผสมของน้่าตาลที่เหลือ ใช้ เรียกว่า มูลน้่าหวาน เป็นอาหารของมดและราด่า ราด่าจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วปกคลุมใบและผล ใบจึง ไม่มีพื้นที่ในการปรุงอาหารได้อย่างเต็มที่ ส่าหรับผลจะสกปรกเนื่องจากมูลน้่าหวานและราด่าท่าให้ไม่เป็นที่ ต้องการของตลาด นอกจากนี้เพลี้ยอ่อนยังเป็นพาหะถ่ายทอดเชื้อไวรัสสาเหตุโรคพืชด้วย
  • วงจรชีวิต : อายุจากไข่จนถึงตัวเต็มวัยตาย 12-29 วัน
  • พืชอาหาร : คะน้า กะหล่ำปลี พริก ถัวฝักยาว

ชื่อแมลง : แมลงหวี่ขาวยาสูบ

  • ชื่อวิทยาศาสตร์ : | tobacco whitefly |
  • ความสำคัญและลักษณะการทำลาย : ศัตรูสำคัญของพืชผักและพืชเส้นใย ระบาดมากในฤดูแล้ง ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบ ารดูดกินน้ำเลี้ยงของแมลงหวี่ขาวตัวอ่อนที่บริเวณใต้ใบจะทําใหใบมีจุดสีเหลือง ตัวเต็มวัยของแมลงหวี่ขาวขับถ่ายของเสียออกมาเป็นมูลหวาน (honeydew) ซึ่งจะเป็นอาหารของเชื้อราดําทำให้ใบหงิกงอและเหี่ยวแห้งต้นแคระแกรน นอกจากนั้น เป็นพาหะนำเชื้อไวรัสของพืชหลายชนิด
  • วงจรชีวิต : สืบพันธุ์แบบ parthenogenesis (การออกลูกเป็นตัวโดยไม่มีการผสมพันธุ์) วงจรชีวิต 14-31 วัน
  • พืชอาหาร : ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วลิสง มะเขือเทศ ยาสูบ มันฝรั่ง มะเขือ แตงต่างๆ ฝ้าย ปอแก้ว และวัชพืชหลายชนิด
Page 2 of 2