Latitude : 0 longittude : 0
ชื่อสามัญ : | Leaf Eating Beetle, Flea Beetle |
---|---|
ชื่ออื่น : | กระเจ๊า หมัดผัก หมัดกระโดด |
วงศ์ : | Chrysomelidae |
ความสำคัญ และลักษณะการทำลาย : | แพร่ระบาดอยู่โดยทั่วๆ ไปในธรรมชาติ พบ 2 ชนิด คือ ด้วงหมัดผักแถบลาย P. sinuata และด้วงหมัดผักสีน้ำเงิน P. chontanica ชนิดที่ส่าคัญคือ ด้วงหมัดผักแถบลาย ตัวจะอ่อนกัดกินหรือชอนไชเข้าไปกินอยู่บริเวณโคนต้นหรือรากของผัก ท่าให้พืชผักเหี่ยวเฉาและไม่เจริญเติบโต ถ้ารากถูกท่าลายมากๆ ก็อาจจะท่าให้พืชผักตายได้ ตัวเต็มวัยชอบกัดผิวด้านล่างของใบท่าให้ใบเป็นรูพรุน และอาจกัดกินผิวล่าต้น และกลีบดอกด้วย ด้วงหมัดผักชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ ตัวเต็มวัยเมื่อถูกกระทบกระเทือนชอบกระโดด และสามารถบินได้ไกลๆ |
วงจรขีวิต : | อายุ 47-83 วัน |
ไข่ : | ตัวเต็มวัยเพศเมียจะวางไข่เป็นฟองเดี่ยวๆ หรือกลุ่มบริเวณโคนต้นพืช เส้นกลางใบพืช และตามพื้นดิน ไข่รูปร่างคล้ายไข่ไก่มีขนาด 0.13x0.27 มม. สีขาวอมเขียว ผิวเรียบเป็นมัน และจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองก่อนฟัก เป็นตัว ระยะไข่ 3-4 วัน |
หนอน : | ระยะหนอน 10-14 วัน ตัวหนอนมีสีขาว ส่วนหัวและส่วนหลังปล้องแรกสีน้่าตาล มีจุดสีน้่าตาลตามล่าตัวและแผ่นสีน้่าตาลอยู่ทางด้านบนของปล้องสุดท้ายล่าตัว หนอนอาศัยอยู่ในดิน |
ดักแด้ : | ระยะดักแด้ 4-5 วัน จะเข้าดักแด้ในดิน ส่วนปีกและขาของดักแด้แยกจากล่าตัวเป็นอิสระเคลื่อนไหวได้ |
ตัวเต็มวัย : | อายุตัวเต็มวัย 30-60 วัน ตัวเต็มวัยเป็นด้วงขนาดเล็ก ความยาวประมาณ 2-2.5 มม. ปีกคู่หน้าสีด่า มีแถบเหลืองสองแถบพาดตามความยาว ด้านล่างของล่าตัวสีด่า ขาคู่หลังตรงส่วนของฟีเมอร์ขยายใหญ่และโตกว่าขาคู่อื่นๆ หนวดแบบเส้นด้าย ผสมพันธุ์ได้หลายครั้ง เพศเมียแต่ละตัววางไข่ได้ 80-200 ฟอง |
ระยะทำลายพืช : | หนอน ตัวเต็มวัย |
พาหะนำโรค : | - |
ส่วนของพืชที่่ถูกทำลาย : | ใบ ต้น ราก |
พืชอาศัย : | ผักตระกูลกะหล่่า เช่น ผักคะน้า กะหล่่าปลี กะหล่่าดอก กะหล่่าปม ผักกาดเขียวกวางตุ้ง ผักกาดเขียวปลี ผักกาดหัว เป็นต้น |
ศัตรูธรรมชาติ : | - |
เขตกรรม : | การลดการระบาดของด้วงหมัดผัก สามารถท่าได้โดยการไถตากดินไว้เป็นเวลานานพอสมควร เพื่อท่าลายตัวอ่อนและดักแด้ที่อาศัยอยู่ในดิน นอกจากนี้ควรเปลี่ยนมาปลูกพืชที่ด้วงหมัดผักไม่ชอบก็จะเป็นการช่วยลดการระบาดได้อีกทางหนึ่ง |
วิธีกล : | ติดกับดักกาวเหนียวสีเหลือง เหนือยอดพืชอัตรา 80 กับดักต่อไร่ ช่วยลดประชากรตัวเต็มวัย |
สารสกัด : | - |
ฟีโรโมน : | - |
สารชีวภัณฑ์ : | ไส้เดือนฝอย (Steinernema carpocapsae) อัตรา 4 ล้านตัวต่อพื้นที่ 20 ตารางเมตรต่อน้ำ 20 ลิตร โดยพ่นหรือราดทุก 7 วัน เพื่อฆ่าตัวอ่อนด้วงหมัดผักในดิน |
สารเคมี : | acetamiprid, carbaryl, carbosulfan, dinotefuran, fipronil, tolfenpyrad, | สารที่ 1 | คาร์บาริล 85% ดับบลิวพี อัตรา 40 กรัม/น้ำ 20 ลิตรกลุ่มกลไกการออกฤิทธิ์ที่ 1A ระดับความเป็นพิษ LD50 น้อย 614 มิลลิกรัม |
สารที่ 2 | สารคาร์โบซัลแฟน 20% อีซี อัตรา 50 มล./น้่า 20 ลิตรกลุ่มกลไกการออกฤิทธิ์ที่ 1A ระดับความเป็นพิษ LD50 ปานกลาง 209 มิลลิกรัม |
สารที่ 3 | สารโทลเฟนไพแรด 16% อีซี อัตรา 30-40 มล./น้่า 20 ลิตร กลุ่มกลไกการออกฤิทธิ์ที่ 21 ระดับความเป็นพิษ LD50 ปานกลาง 386 มิลลิกรัม |
สารที่ 4 | สารฟิโปรนิล 5% เอสซี อัตรา 40-50 มล./น้ำ 20 ลิตร กลุ่มกลไกการออกฤิทธิ์ที่ 2B ระดับความเป็นพิษ LD50 ร้ายแรง 92 มิลลิกรัม |
สารที่ 5 | สารอะเซตามิพริด 20% เอสพี อัตรา 20 กรัม/น้ำ 20 ลิตร หรือสารไดโนทีฟูแรน 10% ดับบลิวพี อัตรา 30-40 กรัม/น้ำ 20 ลิตร กลุ่มกลไกการออกฤิทธิ์ที่ 4A ระดับความเป็นพิษ LD50 ปานกลาง 146 มิลลิกรัม |
พืชที่ 1 | คะน้า ด้วงหมัดผักจะเข้าทำลายตั้งแต่ระยะกล้า ต้องทำการพ่นสารป้องกันกำจัดแมลง กัดกินต้นกล้า ใบเล็กจะเป็นรูเมื่อใบมีขนาดใหญ่รูใบจะกว้างขึ้น |
พืชที่ 2 | กะหล่ำปลี เริ่มพ่นระยะกล้า |
พืชที่ 3 | กวางตุ้ง |
พืชที่ 4 | ผักกาดหัว |
พืชที่ 5 | ผักกาดเขียวปลี |
พืชที่ 6 | กะหล่ำดอก |
พืช EIL : | - |
พืชส่งออก : | - |
กระบวนการพิเศษ1 | - |
กระบวนการพิเศษ2 | - |
กระบวนการพิเศษ3 | - |
งานวิจัย : | การทดสอบประสิทธิภาพเชื้อราเขียวเมตาไรเซียม Metarhizium anisopliae (Metsch)Sorokin เพื่อป้องกันกำจัดด้วงหมัดผัก Phyllotreta sinuata (Stephens) อัตรา 300 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร |
แหล่งสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม : |
ฐานข้อมูลนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยเทคโนโลยีการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูผักอย่างแม่นยำ 2565-67
ภายใต้แผนงานวิจัยและพัฒนาการผลิตพืชผักด้วยเทคโนโลยีเกษตรขั้นสูงเพื่อเพิ่มผลิตภาพ